นักลงทุนสัมพันธ์

ภายใต้ชื่อบริษัท ไดมอนด์ อินฟินิตี้ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน1.00 ล้านบาท จำนวนหุ้นรวม 10,000 หุ้น

เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท พัสดุภัณฑ์ไทย จำกัด โดยเริ่มให้บริการรับและกระจายสินค้าแก่กลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจ (B2B) ด้วยรถขนส่ง

เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 15.00 ล้านบาท และเริ่มเปิดจุดให้บริการ (Drop point) เพื่อรองรับการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อย (C2C) โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ถนน ท่าเรือ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 20.60 ล้านบาท โดยกลุ่มคุณเฉลิมชัย จีนะวิจารณะ ได้เริ่มเข้าลงทุนในบริษัทด้วยการซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมและซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท รวมถือหุ้นเป็นสัดส่วนร้อยละ 37.87 ของทุนจดทะเบียน 20.60 ล้านบาท

เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 40.00 ล้านบาท และ 59.30 ล้านบาทในปี 2553 และปี 2556 ตามลำดับ เพื่อลงทุนสร้างศูนย์กระจายสินค้า (Hub) สำหรับแต่ละภูมิภาคเพิ่มเติม โดยในปี 2556 บริษัทมีศูนย์กระจายสินค้ารวม 20 แห่ง อยู่ในภาคกลาง 1 แห่ง ภาคเหนือ 1 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่งทั้งนี้ กลุ่มคุณเฉลิมชัย จีนะวิจารณะ ซื้อ

หุ้นเพิ่มทุนของบริษัทและซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม รวมถือหุ้นเป็นสัดส่วนร้อยละ 41.52 ของทุนจดทะเบียน 59.30 ล้านบาท

ย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 1010 ถ. หลวงแพ่ง แขวงทับยาว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ โดยเป็นการเช่าที่ดินจาก บจก.ชนาริศา

เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 69.30 ล้านบาท และ 70.00 ล้านบาท ในปี 2558 และปี 2559 ตามลำดับ เพื่อลงทุนในระบบสารสนเทศ ซึ่งสามารถติดตามสถานะการจัดส่งสินค้าแก่ลูกค้าแบบออนไลน์ได้ โดยกลุ่มคุณเฉลิมชัย จีนะวิจารณะ ซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทและซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ ณ สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2559 กลุ่มคุณเฉลิมชัย ถือหุ้นเป็นสัดส่วนร้อยละ 100.00 ของทุนจดทะเบียน 70.00 ล้านบาท ณ สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2559

เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 173.00 ล้านบาท เพื่อลงทุนในการวางระบบสารสนเทศและยานพาหนะและเริ่มให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มธุรกิจสู่รายย่อย (B2C) รวมถึงเริ่มให้บริการเก็บเงินปลายทางแก่ลูกค้า (Cash on Delivery: COD)

ซื้อที่ดินซึ่งติดกับที่ตั้งสำนักงานใหญ่ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ มูลค่ารวม 63.00 ล้านบาทและซื้อที่ดินถนนจากบจก.ชนาริศา มูลค่ารวม 13.78 ล้านบาท เพื่อให้ที่ดินที่ติดกับสำนักงานใหญ่มีทางออกสู่ถนนใหญ่

เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 202.00 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่ จำนวน 290,000 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 730 บาท รวมมูลค่า 211.70 ล้านบาท เพื่อลงทุนซื้อที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัท

เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 262.00 ล้านบาท เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก และแก้ไขมูลที่ตราไว้ของหุ้นของบริษัท จากเดิมมูลค่าหุ้นละ 100 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 0.50 บาท ส่งผลให้หุ้นสามัญของบริษัทเปลี่ยนแปลงจากจำนวน 262,000,000 หุ้น เป็นจำนวน 524,000,000 หุ้น โดยหุ้น

สามัญที่จะเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกมีจำนวนเท่ากับ 120,000,000 หุ้น

ซื้อที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทจาก บจก.ชนาริศา  มูลค่ารวม 200.01  ล้านบาท